เนื้อหาที่ 7 วิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศฯ

การสร้างแบบทดสอบด้วย Google Form 

มีขั้นตอนดังนี้

1. เริ่มต้นด้วยการไปที่ Google Form แล้วสร้างแบบฟอร์มตามปกติ
2. จากนั้น เลือกที่การตั้งค่า(Settings) เป็นไอคอนรูปเฟืองด้านขวาบน

3. หน้าต่าง “การตั้งค่า(Settings)” จะปรากฏขึ้น จากนั้นเลือกที่ แท็บ “แบบทดสอบ(Quizzes)”
4. คลิกที่สวิตช์ “ทำเป็นแบบทดสอบ(Make this a quiz)” ดังรูป

                                

5. เลือก option อื่น ๆ ตามต้องการ เช่น ต้องการให้ประกาศคะแนนทันทีหลังจากส่งคำตอบ และให้ผู้ตอบสามารถดูคำถามที่ตอบผิดได้ด้วย ก็ให้เลือกดังรูปด้านบน
6. จากนั้น กดปุ่ม “บันทึก(Save)”
7. จากนั้นทำการสร้างคำถามและตัวเลือกตามปกติ โดยประเภทของคำถามที่ Google Form สามารถตรวจแบบอัตโนมัติได้ ได้แก่ คำถามแบบ “หลายตัวเลือก” แบบ “ช่องทำเครื่องหมาย” และแบบ “เลื่อนลง”

                                   

8. จากนั้น คลิกเลือกที่ เฉลยคำตอบ ด้านล่างซ้ายของคำถามข้อนั้น ๆ เพื่อเข้าสู่โหมด “เลือกคำตอบที่ถูกต้อง”

                                          

9. กำหนดคะแนนให้กับคำถามแต่ละข้อ ในช่องด้านขวาที่อยู่ด้านข้างคำถาม

                                

10. ระบุคำตอบที่ถูกต้อง โดยคลิกด้านขวาของตัวเลือกนั้น จะปรากฏเครื่องหมายถูกสีเขียวขึ้น

                               

11. หากเป็นคำถามประเภท “ช่องทำเครื่องหมาย” ก็สามารถเลือกได้หลายคำตอบ

                               

12. ถ้าต้องการเพิ่มความคิดเห็นสำหรับคำตอบ ให้คลิกที่ เพิ่มความคิดเห็นสำหรับคำตอบ
13. จากนั้น ทำการสร้างคำถามและคำตอบไปจนครบทุกข้อ
14. เมื่อสร้างแบบทดสอบเสร็จ และลอง preview จนสาแก่ใจแล้ว ก็จัดการแชร์ให้นักเรียนเข้ามาทำแบบทดสอบได้เลย
15. หลังจากนักเรียนเข้ามาทำแบบทดสอบครบทุกข้อ จะได้ผลลัพธ์ดังรูป

                                     

16. เมื่อนักเรียนคลิกที่ “ดูคะแนนของคุณ” Google Form ก็จะแสดงคะแนนรวมพร้อมเฉลยแต่ละข้อดังนี้

                                     

ตัวอย่างเฉลยข้อที่ผิด และ ข้อที่ถูกต้อง

                                      

17. สุดท้าย คุณครูสามารถเข้ามาดูสถิติคะแนน และสถิติคำตอบของนักเรียน โดยการคลิกที่แท็บ “การตอบกลับ” ได้เลย

สถิติคะแนนรวม

                                      

สถิติการตอบแต่ละข้อ

                                     

Credit: https://www.9experttraining.com/articles/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%94-%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%9A%E0%B8%99-google-form

เนื้อหาที่ 6 วิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศฯ

การสร้างแบบประเมิน Google Form 

เริ่มต้นใช้งาน Google form

ก่อนที่จะเริ่มสร้างและออกแบบฟอร์มออนไลน์นั้น เพื่อให้การสร้างฟอร์มง่ายขึ้น ผมเลยขอยกตัวอย่างแบบฟอร์มสำรวจความพึงพอใจในการให้บริการฯ เพื่อนำมาเป็นต้นแบบในการออกแบบฟอร์มออนไลน์ใน Google form

• หลังจากเรามีตัวอย่างฟอร์มที่เป็นต้นแบบแล้ว ขั้นตอนแรกให้ลงชื่อเข้าใช้ Google Account เพื่อเข้าไปใช้บริการของ Google ซึ่งสามารถ Login ได้ที่ : https://goo.gl/eRx3uP
• จากนั้นกรอกอีเมล์และรหัสผ่านของบัญชีกูเกิ้ล

• เมื่อลงชื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว หน้าเว็บของผู้ใช้งานจะกลับมายังหน้า Google search
• ให้ผู้ใช้งานคลิกไปที่ “App -> ไดรฟ์” เพื่อไปยัง Google Drive

• ในหน้าของ Google Drive นั้นจะเป็นคลังเก็บไฟล์ออนไลน์ (เมื่อเราทำการสร้างฟอร์มเสร็จแล้ว ฟอร์มที่เราสร้างเสร็จจะอยู่ใน Google Drive)
• ขั้นตอนที่สอง เริ่มต้นสร้างแบบฟอร์ม โดยไปที่ “ใหม่ -> เพิ่มเติม -> Google ฟอร์ม“

• เมื่อเข้าสู่หน้าออกแบบฟอร์ม ขั้นตอนแรกให้ผู้ใช้งานตั้งชื่อแบบฟอร์ม โดยไปที่มุมซ้ายบน(ดังรูปภาพด้านล่าง)

• ตั้งชื่อแบบฟอร์ม “แบบสำรวจข้อมูลความพึงพอใจ” เมื่อกรอกเสร็จให้คลิกที่ “ตกลง“

• จากนั้นกรอกหัวข้อหลักของแบบสอบถาม และหัวข้อรองของแบบสอบถาม

• ขั้นตอนต่อเป็นแทรกข้อความลงในแบบฟอร์ม ก่อนที่จะแทรกข้อความลงไปให้ทำการลบรูปแบบฟอร์มที่ถูกสร้างอยู่แล้วออกก่อนโดยคลิกที่ รูปถังขยะของรูปแบบฟอร์มนั้นๆ

• ต่อไปเราจะมาเริ่มทำแบบฟอร์ม โดยจะเริ่มต้นออกแบบจากตอนที่ 1 ของแบบสอบถามตัวอย่าง ซึ่งการแทรกข้อความลงในแบบฟอร์มเราสามารถใช้รูปแบบที่เป็น “ส่วนหัวของส่วนหัว” และใช้รูปแบบฟอร์ม ที่สามารถเลือกได้เพียงตัวเลือกเดียวนั้นก็คือรูปแบบ “หลายตัวเลือก“

• วิธีการแทรกข้อความลงในแบบฟอร์มนั้น ผู้ใช้งานสามารถแทรกข้อความธรรมดาลงในแบบฟอร์มได้โดยเลือกที่ “เพิ่มรายการ” จากนั้นเลือกที่ “ส่วนหัวของส่วน“

• แทรกข้อความที่ต้องการแสดงลงไป  “ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ใช้งาน” เมื่อแทรกข้อความเสร็จแล้ว ให้คลิกที่ “เสร็จ“

• ขั้นตอนต่อไป เราจะทำการเพิ่มรูปแบบฟอร์ม “หลายตัวเลือก” ที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูล บุคลากรนอกมหาวิทยาลัย, บุคลากรภายในมหาวิทยาลัย, นักศึกษา โดยให้ผู้กรอกนั้นสามารถเลือกได้เพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้น วิธีการเพิ่มฟอร์มให้ไปที่ “เพิ่มรายการ” -> “หลายตัวเลือก“

• กรอกหัวข้อคำถามลงไปในช่อง “หัวข้อคำถาม” และกรอกข้อความลงในตัวเลือก หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จแล้วให้ ติ๊กถูกที่ช่อง “คำถามที่ต้องตอบ” เพื่อกำหนดให้ผู้กรอกต้องตอบคำถามข้อนี้ในลงแบบฟอร์ม เมื่อกรอกเสร็จแล้วให้คลิกที่ “เสร็จ“

• หลังจากที่เราได้สร้างรูปแบบฟอร์ม “หลายตัวเลือก” ที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูล บุคลากรนอกมหาวิทยาลัย, บุคลากรภายในมหาวิทยาลัย, นักศึกษา ในตอนที่ 1 นั้น ในหน้าของการออกแบบ เราจะสังเกตุเห็นเครื่องหมาย * สีแดงปรากฏอยู่หลังหัวข้อคำถามเพื่อให้ผู้กรอกได้ทราบว่าเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ

• ต่อไปเราจะมาออกแบบฟอร์มในตอนที่ 2 ของแบบสอบถามตัวอย่าง โดยการแทรกข้อความ  “ส่วนหัวของส่วน” ของตอนที่ 2 นั้น เราจะไม่สร้างรูปแบบฟอร์มใหม่ แต่จะเป็นการทำสำเนาของรูปแบบฟอร์ม “ส่วนหัวของส่วน” ของตอนที่ 1 ขึ้นมาใหม่อีก 1 รายการและทำการแก้ไขและย้ายตำแหน่ง
• วิธีการทำสำเนาใหม่ให้คลิกที่ รูปกระดาษซ้อนกัน ข้างหลังรูปแบบฟอร์มที่ต้องการทำสำเนา ในตัวอย่างภาพด้านล่าง เราจะทำการทำสำเนาของ “ส่วนหัวของส่วน” ในตอนที่ 1

• จากนั้นทำการแก้ไขข้อความ ให้เปลี่ยนเป็นตอนที่ 2 “ตอนที่ 2 ความพึงพอใจต่อการใช้บริการ…” เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ให้คลิกที่ “เสร็จ“

• หลังจากกดเสร็จสิ้นแล้ว รูปแบบฟอร์ม “ส่วนหัวของส่วน” ที่เราทำสำเนาขึ้นมาใหม่ จะปรากฏอยู่ด้านล่างของต้นฉบับที่เราได้ทำสำเนา
• ต่อไป เราจะทำการย้ายตำแหน่ง “ส่วนหัวของส่วน” ของตอนที่ 2 ให้ลงมาอยู่ด้านล่างสุด วิธีการย้ายตำแหน่งนั้น เราสามารถคลิกเมาส์ค้างไว้ที่รายการนั้นๆ และลากเมาส์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการ

• หลังจากปล่อยเมาส์ รายการนั้นๆ ก็จะถูกย้ายไปยังตำแหน่งที่เราต้องการ

• ขั้นตอนต่อไป ในส่วนของตอนที่ 2 ของแบบฟอร์มตัวอย่าง การเก็บข้อมูลจะอยู่ในรูปแบบตาราง ซึ่ง Google form ก็สามารถเก็บข้อมูลในรูปแบบของตารางได้เช่นกัน ส่วนวิธีการสร้างรูปแบบฟอร์มนั้น ให้ไปที่ “เพิ่มรายการ” -> “เส้นตาราง“

• จากนั้นให้เรากรอกหัวข้อคำถาม ซึ่งหัวข้อคำถามก็คือหัวข้อหลักของแต่ละตาราง ต่อไปให้กรอก ป้ายกำกับแถวแนวนอน นั้นก็หมายถึง หัวข้อย่อยในการประเมินของหัวข้อหลัก และคอลัมน์ก็คือค่าคะแนน ซึ่งวิธีการนี้สามารถนำไปสร้างทั้ง 3 ตาราง ที่อยู่ในตอนที่ 2  นั้นก็คือ ด้านโสตทัศนูปกรณ์ภายในห้อง, ด้านการให้บริการของเจ้าหน้าที่, ด้านการให้บริการห้องปฏิบัติการนวัตกรรม ส่วนวิธีการสร้างตารางทั้ง 3 นั้นใช้วิธีเดียวกันทั้งหมด

• เมื่อกรอกข้อมูล หัวข้อคำถาม ป้ายกำกับ คอลัมน์ ลงในรูปแบบฟอร์มของตารางเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปให้คลิกที่ “เสร็จ” และการสร้างตารางต่อไปนั้น เราจะทำสำเนาใหม่และแก้ไขข้อมูล หรือสร้างรายการ “เส้นตารางใหม่” ขึ้นก็ได้

• ตัวอย่างรูปแบบตารางตอนที่ 2 ของ Google form

• ต่อไปในส่วนของ ตอนที่ 3 จะเป็นการแทรกรายการที่ใช้สำหรับกรอกข้อมูลเป็นตัวอักษรที่มีจำนวนมาก ซึ่งรูปแบบฟอร์มรับข้อมูลเราจะใช้เป็น “ข้อความย่อหน้า“
• ในส่วนของข้อความ “ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะทั่วไป”  ใช้รูปแบบรายการแบบ  “ส่วนหัวของส่วน” เหมือนกับข้อความตอนที่ 1 และตอนที่ 2

• ในการเพิ่มรายการกล่องข้อความนั้น ซึ่งรูปแบบฟอร์มรับข้อมูลแบบกกล่องข้อความกล่องใหญ่ ควรจะใช้เป็นรายการ “ข้อความย่อหน้า” การเพิ่มรายการเราสามารถเพิ่มได้ที่ “เพิ่มรายการ” -> “ข้อความย่อหน้า“

• แทรกหัวข้อลงไปในช่องหัวข้อคำถาม จากนั้นกด “เสร็จ“
• ในตัวอย่างแบบฟอร์มสำรวจ จะมีหัวห้อคำถามอยู่ 3 ข้อ โดยทั้ง 3 ข้อจะใช้วิธีการเพิ่มรายการรูปแบบเดียวกัน นั้นก็คือ “ข้อความย่อหน้า“

• หลังจากออกแบบฟอร์มสำรวจแบบความพึงพอใจตามตัวอย่างที่ให้ไปเสร็จสิ้น ทีนี้เราลองมาเปลี่ยนมุมมองแบบฟอร์มที่เราได้สร้างไว้แล้วกันดีกว่า ว่ารูปร่างหน้าตาแบบฟอร์มที่เราได้ออกแบบไว้จะเป็นหน้าตาอย่างไร

วิธีดูตัวอย่างแบบฟอร์มออนไลน์

• โดยวิธีการดูตัวอย่างแบบฟอร์ม สามารถคลิกดูได้ที่ “ดูฟอร์มออนไลน์“

เริ่มแชร์แบบฟอร์มออนไลน์

• หลังจากดูตัวอย่างฟอร์มที่เราได้ออกแบบแล้ว หากต้องการที่จะเผยแพร่หรือแชร์ให้กับผู้กรอก ให้คลิกที่ “ส่งฟอร์ม“

• การส่งฟอร์มจะมีอยู่ 3 วิธี 1. ส่งลิ้ง 2. การแชร์ผ่าน Social 3. ส่งฟอร์มผ่าน E-mail
• โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคงจะเป็นวิธีที่ 1 คือการ Copy ลิ้ง และนำลิ้งแบบฟอร์มส่งไปเผยแพร่ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ

เพียงไม่กี่ขั้นตอนในการสร้างแบบฟอร์มออนไลน์ Google form เราก็สามารถสร้างแบบฟอร์มออนไลน์ได้ง่าย อีกทั้งข้อมูลยังถูกเก็บอยู่ในรูปแบบตาราง(spreadsheet) ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการแยกข้อมูล และยังมีเครื่องมือสำหรับสรุปผล

Credit:https://officemanner.com/2015/09/08/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-google-form-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%96%E0%B8%B2/

เนื้อหาที่ 5 วิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศฯ

แหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษ

1.     รายการทีวี 

       

       คนไหนที่มักจะใช้เวลาอยู่หน้าจอทีวีนั้น ไหนลองมาใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์และผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กันโดยการดูรายการสอนภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์ให้กับตัวเอง ฝนแกรมม่าหรือไวยากรณ์ให้เป๊ะ และเรียนรู้วิธีพูดให้มั่นใจกับรายการสอนภาษาอังกฤษเหล่านี้กันสิ

     

Loukgolf’s English Room 

                                                  

          ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13:00 – 13:45 น. เป็นรายการของค่าย GMM Grammy ที่จัดโดยพี่ลูกกอล์ฟ คณาธิป เจ้าของสถาบัน ANGRIZ ผู้มากความสามารถและประสบการณ์ด้านภาษาที่ให้ความรู้ภาษาอังกฤษไปพร้อม ๆ กับความบันเทิง โดยรายการจะเชิญดารานักแสดงและนักร้องมาพูดคุย เล่นเกม แล้วสอนคำศัพท์ วิธีการพูด รวมถึงโครงสร้างประโยค ซึ่งรับรองว่าน้อง ๆ จะได้ทั้งเสียงหัวเราะและความรู้ไปพร้อมกัน รวมทั้งนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงอย่างแน่นอน      

The Breakdown ชัดเวอร์ 

                                                      

         รายการสองภาษาที่จะเติมเต็มจิ๊กซอว์ภาษาอังกฤษตัวที่หายไปของน้อง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าน้อง ๆ จะมีคำถามอะไร อยากพูดประโยคภาษาไทยให้เป็นอังกฤษต้องพูดว่าไง อาจารย์อดัม (Adam Bradshaw) ก็พร้อมตอบคำถามได้ตรงจุดและครบครัน เน้นการสอนจากบริบทจึงทำให้น้อง ๆ เข้าใจคำศัพท์และประโยคต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น ถ้าไม่อยากพลาดรายการสอนภาษาอังกฤษดี ๆ อีกหนึ่งรายการละก็ อย่าลืมติดตามที่ช่อง Voice TV ทุกวันเสาร์ เวลา 13:00 น.       

English สะกิดต่อมฮา 

                                                    

        รายการสนุก ๆ ทางช่อง 8 ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 14:00 น. เป็นรายการเกมโชว์ภาษารายการแรกของประเทศไทยที่ดำเนินรายการโดยพิธีกรสุดฮาอย่างพล่ากุ้งและติวเตอร์คิวทองอย่างอาจารย์อดัม (Adam Bradshaw) ซึ่งรายการนี้จะเปิดโอกาสให้คนที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษมาเล่นเกมชิงเงินรางวัล โดยจะให้ผู้เล่นเกมบอกชาวต่างชาติหรือฝรั่งให้ทำตามโจทย์ที่ให้โดยใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งมีอาจารย์อดัมเป็นตัวช่วยในการบอกคำศัพท์และประโยคต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์กับทั้งคนเล่นและผู้ชมทางบ้านจริง ๆ         

2.     เว็บไซต์ 

    เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่พอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาบ้างแล้ว เพราะเว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษที่จะแนะนำต่อไปนี้เป็นเว็บไซต์โดยเจ้าของภาษานั่นเอง      

engVid.com

                                                               

   เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหาสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษทุกระดับ คือตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับ Advanced พร้อมกับมีหัวข้อที่น่าสนใจมากมาย เริ่มจากคำศัพท์ ไวยากรณ์ ศัพท์สแลง การเขียน การพูด แล้วยังมีเคล็ดลับและข้อแนะนำในการทำข้อสอบที่เข้าใจง่ายสำหรับ TOEIC, TOEFL และ IELTS อีกด้วย 

BBC Learning English 

                                                           

     อีกหนึ่งสุดยอดเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษที่จะทำให้น้อง ๆ พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างครบครันทั้งด้านการออกเสียง คำศัพท์ และไวยากรณ์ โดยน้อง ๆ จะได้เรียนจากเจ้าของภาษาสำเนียงบริติชที่ฟังแล้วเพลินหูเป็นอย่างมาก แถมยังได้ฝึกทำบททดสอบตามวิดีโอที่เรียนอีกด้วย โดยจะมีไฟล์เสียงความยาวประมาณ 6 นาทีมาให้ฝึกฟังอย่างสะดวกและง่ายดายด้วย

Interpals.net

     ลองใช้ทักษะภาษาอังกฤษที่มีกับ Interpals.net สิ เพราะเว็บนี้เปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันกับเพื่อนชาวต่าวชาติผ่านทางแชทของเว็บไซต์และอีเมล หรือจะเขียนจดหมายอย่าง Snail Mail สุดคลาสสิกก็สนุกไม่เบา นับว่าเป็นเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสด้านการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากเพื่อทั่วโลกอย่างแท้จริง   

rylicstraining.com

                                                        

เว็บนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสนุกสนานไปกับเสียงเพลงและเรียนรู้ภาษาอังกฤษรวมถึงภาษาอื่นๆอีก 12 ภาษา แค่เพียงสมัครคลิกเดียวและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เมื่อฟังเพลงเสร็จแล้วเราสามารถเล่นเกมจากเพลงได้ด้วย เช่น เติมเนื้อเพลงจากที่ฟัง ซึ่งมีให้เลือกตามระดับความสามารถตนเอง นอกจากเพลงแล้วยังมีเทรลเลอร์หนังสำหรับผู้เรียนที่ชอบหนัง ก็สามารถฝึกฟังศัพท์จากหนังได้ ซึ่งก็จะพัฒนาไปสู่ทักษะในฝันของหลายๆคน คือ ดูหนังฝรั่งแบบไม่อ่านซับ

   นอกจากจะเป็นเว็บไซต์เพื่อผู้เรียนแล้ว ปัจจุบันเว็บไซต์มีฟีเจอร์ใหม่ให้สำหรับคุณครูได้ออกแบบการเรียนการสอนให้นักเรียนได้

3.     ช่อง YouTube 

     นอกจากรายการทีวีและเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้ว YouTube ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางการเรียนภาษาอังกฤษที่แสนจะสะดวกสบาย ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายช่องหรือ Channel ที่โด่งดังและให้ความรู้ภาษาอังกฤษกับน้อง ๆ ได้อย่างสนุกสนาน       

Adam Bradshaw

                                                      

      อาจารย์เจ้าของภาษาชาวอเมริกันที่พูดไทยได้คล่องสุด ๆ เพราะอยู่ประเทศไทยมานานกว่า 11 ปี ให้น้อง ๆ เรียนภาษาอังกฤษและพูดได้เหมือนเจ้าของภาษา จัดเต็มในเรื่องของไวยากรณ์ คำศัพท์ และบทสนทนา ผ่านวิดีโอที่น่าสนใจที่มีความหลากหลาย น้อง ๆ จึงเข้าใจง่ายสุด ๆ       

SACROSS PEACHII 

                                                                                                                      

    เป็นช่องที่ฮอตสุด ๆ และแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเลยก็ว่าได้ เพราะพี่พีชเจ้าของช่องผู้มีแฟนเป็นเจ้าของภาษาจากเมืองผู้ดี ซึ่งก็คือหนุ่มอังกฤษที่มีสำเนียง British น่าคลั่งไคล้นั่นเอง โดยพี่พีชและแฟนมักมีวิดีโอสอนภาษาอังกฤษอันมีสีสันไม่น่าเบื่อ เช่น สอนคำศัพท์บนโลกโซเชียลที่เรามักใช้บ่อย, รีวิวภาษาที่เมือง Cambridge และทำอาหารไทยอย่างต้มยำกุ้ง เป็นต้น ซึ่งรับรองว่าน้อง ๆ จะอินไปกับความน่ารักของทั้งคู่และได้ความรู้ทางภาษาวัฒนธรรมของประเทศอังกฤษมากยิ่งขึ้นแน่นอน

       

TalkAmerican By MsLingLingOfficial

                                                              

    อีกหนึ่งช่องของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยหลิง ๆ นักเรียนแลกเปลี่ยนและนักศึกษามหาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เริ่มจากเคล็ดลับให้เก่งภาษาอังกฤษ และมีเทคนิคการพูดภาษาอังกฤษมาบอกต่อให้น้อง ๆ พูดและสื่อสารภาษาอังกฤษได้ชัดยิ่งขึ้น เช่น วิธีพูดขอบคุณ แนะนำตัวเอง และศัพท์สแลงที่น่ารู้ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้น้อง ๆ มั่นใจไม่แพ้เจ้าของภาษาเลยทีเดียว   

Credit: ภัคสรกัญญ์ ทองคำ iPrice